วันเสาร์ที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

สงครามสื่อ

19 กันยายน 2549 รัฐประหารเกิดขึ้นโดยคมช. ที่นำโดย พลเอกสนธิ ทำให้อดีตนายกฯทักษิณต้องเร่ร่อนพเนจรไปอยู่อังกฤษ และนี่คือจุดเริ่มต้นของสงครามสื่อแบบเต็มรูปแบบ เพื่อเอาคืนโดยทักษิณใช้สื่อต่างประเทศในการทำลายประเทศของตัวเอง ใช้เงินซื้อสื่อเพื่อเป็นกระบอกเสียงของตัวเอง ในการโจมตีสถาบันต่างๆ และยังมีลูกสมุนที่เป็นคนในรัฐบาลเองใช้ NBT สื่อของรัฐบาลมาช่วยทักษิณในการโจมตี ทั้งตุลาการ และองค์กรอิสระต่างๆ ส่วนกลุ่มพันธมิตรฯก็มี ASTV ที่เป็นสื่อในการเสนอข่าวความเคลื่อนไหว เปิดโปงและโจมตีระบอบทักษิณ ให้คนได้รู้ ที่นำโดยแกนนำทั้งห้า ต่างก็เปิดโปงความเลวของแต่ละฝ่ายออกมาให้เห็นกัน บางอย่างไม่เคยรู้ก็รู้ บางข่าวก็เขียนขึ้นมาเอง มีทั้งข่าวลวง ข่าวเท็จ ข่าวเจาะยาง ทั้งจริงทั้งหลอก คนเสพสื่อจงใช้สติไตร่ตรองให้ดี



แม้แต่สื่อสิ่งพิมพ์หรือที่เราเรียกกันว่าหนังสือพิมพ์ก็มีการเลือกข้างไปเรียบร้อย แม้แต่คอลัมนิสต์บางคนก็เอียงๆให้เห็น เขียนบทวิเคราะห์ วิจารณ์ เข้าข้างฝ่ายต่างๆ โดยไม่มีความเป็นกลาง มันคือสงครามสื่อเต็มรูปแบบ มันคือการเลือกข้างที่ชัดเจน และไม่เคยปรากฎว่ามีการแบ่งแยกของคนไทยในอดีตที่แบ่งเป็นสองขั้วชัดเจนเช่นนี้มาก่อนเลย

ในโลกของ Internet ก็มีการแบ่งฝ่ายชัดเจน มีเหล่านักรบไซเบอร์ที่คอยห้ำหั่นกัน อย่างสนุกสนาน มีการหาแนวร่วม มวลชนมาเป็นของตัวเองมากที่สุด ต่างพยายามดึงพวกพลังเงียบออกมาเป็นพวกตัวเอง มีการใช้สีแยกพวกอย่างชัดเจน มีการใช้งบประมาณอย่างมากในสงครามสื่อครั้งนี้ ทั้งของเอกชน และไปเบียดบังเอาฟรีทีวีของรัฐบาล มาเป็นกระบอกเสียงของฝ่ายตน

การให้ข้อมูลก็จะออกมาจากของแต่ละฝ่ายผ่านจอทีวี หนังสือพิมพ์ หรือเวบไซด์ ต่างๆ รอวันแตกหักกัน สงครามกลางเมืองมันกำลังรออยู่ ไทยจะต้องฆ่าไทยด้วยกันเอง จะสีเหลือง หรือสีแดงก็คนไทยทั้งนั้น รากหญ้าคือเหยื่อในสงครามครั้งนี้ ผู้ชนะไม่มี คนแพ้คือประเทศไทย


สงครามสื่อคือสงครามแห่งการชวนเชื่อคนฟังต้องคิดและพิจารณาให้ดีในการเสพสื่อ เพราะมีทั้งหลอก และจริง จะได้ไม่หลงงมงายเชื่อใครทั้งสิ้น การดึงมวลชนมีทั้งจ้าง และเหตุผลของการชุมนุม แต่จะมีแอบแฝงอื่นหรือไม่ก็จงใคร่ครวญให้ดี จะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือใครง่ายๆ

ไม่มีความคิดเห็น: