วันอังคารที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

ยกสุดท้าย

สถานะการณ์นองเลือดเริ่มจากเวลาประมาณ 06.15 น. เมื่อแก๊สน้ำตาลูกแรกถูกยิงออกไปเพื่อเคลียร์ทางเข้าให้คณะรัฐมนตรีเข้าแถลงนโยบายของรัฐบาล ที่รัฐสภา

ได้เรื่องจนได้ได้ทั้งเลือดและเนื้อของผู้ชุมนุม จนถึงขาขาดก็มีบาดเจ็บอีกเกือบร้อย จากผลของแก๊สน้ำตา ทั้งที่หลายคนตั้งข้อสังเกตุว่า แก๊สน้ำตาไม่น่าจะทำให้ขาขาดได้ หรือแม้แต่ระเบิดจริง หรืออาวุธหนักเรื่องนี้คงต้องว่ากันอีกที ประกอบกับ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้ให้ทหารคนสนิทยื่นประกันตัว พลตรีจำลอง ศรีเมือง เพราะเชื่อว่าถ้าพลตรีจำลอง คงอยู่ข้างนอก อาจจะควบคุมสถานการณ์ได้ แต่พลตรีจำลองปฏิเสธ ทำให้พลเอกชวลิต ลาออกจากรัฐบาลแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


รอบสองช่วงเที่ยง เพื่อเคลียทางให้คณะรัฐมนตรีและสส. ออกจากรัฐสภาจนทำให้นายกฯต้อง ปีนกำแพงออกจากรัฐสภา เจ้าหน้าที่รัฐสภา และบรรดา สส.กว่าจะออกมาได้ก็เกือบเย็นแล้ว และตอนเย็นยังปะทะกันอีกที่หน้า บชน. พร้อมกับมีรายงานมาว่าขาขาดไปอีกสามราย แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน
คือการแสดงพลังของฝ่ายประชาชนและ อำนาจรัฐที่เกิดจากการเมือง การเมืองที่ทำให้คนไทยกันเองต้องแตกแยกกันทางความคิด ความเห็น จนต้องมาเข่นฆ่ากันเอง เพื่อสนองอำนาจและตัณหาของผู้มีอำนาจในบ้านเมือง หยุดเกมส์การเมืองเสียทีอย่าเอาชีวิตเลือดเนื้อ ชีวิต และทรัพย์สิน มาเป็นเดิมพันกันอีก

ผู้รับผิดชอบอย่าบอกแค่ว่าเจ้าหน้าที่ทำถูกต้อง ทำแบบนุ่มนวลที่สุดแล้ว การเมืองมันต้องแก้ด้วยการเมือง เหมือนที่ พลเอกอนุพงษ์ ที่ตีชิ่งหนีออกมา จากที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบคราวนายกฯสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วอยากรู้ว่าใครจะเป็นคนเสียสละ ที่จะหยุดความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้



ไม่มีความคิดเห็น: